FAQ
 
   
 
UK

sssssssssssssssssss



1. การสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศสหราชอาณาจักร จะต้องส่งใบสมัครเมื่อไร?
สถาบันการศึกษาในสหราชอาณาจักรจะเปิดภาคการศึกษาในเดือนกันยายน หรือตุลาคมของทุกปี ถึงแม้สถาบันส่วนใหญ่จะไม่กำหนดวันปิดรับใบสมัครที่ตายตัว แต่นักศึกษาก็ควรยื่นใบสมัครตั้งแต่ช่วงต้นปีหรือก่อนหน้านั้น เพื่อรอผลการพิจารณา ซึ่งแต่ละสถาบันอาจส่งจดหมายตอบรับทางไปรษณีย์ ทางแฟกซ์ หรือ อีเมล์ ก่อน โดยระยะเวลาที่แต่ละสถาบันตอบรับหรือตอบปฏิเสธจะแตกต่างกันโดยใช้เวลาประมาณ 2-8 สัปดาห์ หรือนานกว่านั้น

2. อยากทราบรายละเอียดของหลักสูตร ระยะเวลาที่เรียน และค่าเล่าเรียน จะสอบถามได้ที่ใด?
นักศึกษาสามารถดูรายละเอียดจากเว็บไซด์ของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ BritishCouncil และสถาบันแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศที่เป็นตัวแทนของสถาบันการศึกษานั้นๆ สถาบันแนะแนวที่เป็นตัวแทนจะให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการสมัคร การติดตามผลการสมัครตลอดจนให้บริการเรื่องการจองที่พัก คำแนะนำในการขอวีซ่า การปฐมนิเทศก่อนเดินทาง และประสานกับทางสถาบันให้จัดรถมารับที่สนามบิน

3. การยื่นใบสมัครในการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี-โท-เอก จะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
เอกสารที่จะต้องใช้ในการสมัคร ประกอบด้วย
3.1 ใบสมัครของมหาวิทยาลัย ซึ่งสามารถ download จากเว็บไซต์ หรือขอรับจากสถาบันแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ
3.2 ผลการศึกษาฉบับจริงหรือสำเนา ( Official Transcript) ต้องเป็นภาษาอังกฤษ
3.3 จดหมายรับรองของอาจารย์ที่ปรึกษาหรืออาจารย์ผู้สอน 2 ท่าน และ/หรือหัวหน้างาน 1 ท่าน เป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน
3.4 ผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS หรือ TOEFL ฉบับจริงหรือสำเนา หากนักศึกษายังไม่มีผลสอบสอบภาษาอังกฤษ ก็สามารถยื่นเอกสารอื่นๆก่อนเพื่อขอรับการพิจารณา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยจะพิจารณาตอบรับแบบ Conditional Offer ได้
3.5 Statement of Purpose เป็นเอกสารยาวประมาณ 1- ? หน้า บรรยายเกี่ยวกับพื้นฐานการศึกษา ความตั้งใจและเป้าหมายในการศึกษาในอนาคต เขียนเป็นภาษาอังกฤษ สำหรับนักศึกษาปริญญาเอก จะต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม คือ หัวข้อการทำวิจัย ( Topic of Research ) และข้อเสนอการทำวิจัย ( Proposal of Research ) บทความงานวิจัยที่เคยได้รับการตีพิมพ์ ( หากมี ) และควรจัดทำประวัติการศึกษาและการทำงาน ( Resume ) ประกอบด้วย


4.ดิฉันมีผลการเรียนในระดับปริญญาตรี ได้ GPA ต่ำกว่า 3.0 จะมีสิทธิ์สมัครเรียนต่อปริญญาโทใน ประเทศสหราชอาณาจักรได้หรือไม่ ?
มหาวิทยาลัยในประเทศสหราชอาณาจักรรับนักศึกษาที่จบการศึกษาปริญญาตรีเพื่อเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทได้ โดยสถาบันส่วนใหญ่มักต้องการนักศึกษาที่มี GPA ตั้งแต่ 2.5 หรือ 3.0 บางสถาบันอาจรับนักศึกษาที่มี GPA ต่ำกว่า 2.5 ก็ได้ รายละเอียดการรับนักศึกษา สามารถสอบถามได้ที่ตัวแทนสถาบันการศึกษา

5. หากดิฉันมีผลสอบภาษาอังกฤษต่ำกว่าที่มหาวิทยาลัยต้องการ ดิฉันจะมีโอกาสได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยหรือไม่ ?
ถ้าผลสอบภาษาอังกฤษ ( IELTS ) ไม่ต่ำกว่า 5.5 สถาบันหลายแห่งยินดีรับแบบมีเงื่อนไข ( Conditional Offer ) โดยนักศึกษาจะต้องเข้าเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ ( Pre-sessional English Course ) ตามระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด บางหลักสูตรมหาวิทยาลัยอาจต้องการให้นักศึกษามีระดับภาษาอังกฤษที่สูงขึ้น เช่น หลักสูตรกฎหมาย LLM มักจะกำหนด IELTS 7.0 ถ้านักศึกษามีผลสอบ IELTS 6.0-6.5 อาจจะได้รับการตอบรับแบบมีเงื่อนไข ( Conditional Offer ) ให้นักศึกษาเข้าเรียนภาษาอังกฤษตามระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด เมื่อสำเร็จการศึกษาหลักสูตรภาษาอังกฤษแล้ว นักศึกษาสามารถเข้าเรียนต่อปริญญาตรี โท เอก ได้ ( Direct Entry )

6. หากดิฉันมีผลสอบภาษาอังกฤษ IELTS ต่ำกว่า 5.5 ดิฉันจะทำอย่างไรจึงจะสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ ?
มีบางมหาวิทยาลัยที่จัดหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาที่มี IELTS ต่ำกว่า 5.5 ซึ่งนักศึกษาจะต้องได้รับการตอบรับก่อน และสามารถเข้าเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยกำหนด ( English for Academic Purpose ) ซึ่งมักจะเปิดตั้งแต่...เมษายน หรือ พฤษภาคม

7. การเรียนภาษาอังกฤษกับทางมหาวิทยาลัย ดิฉันจะมีสิทธิ์จองที่พักใน campus ของมหาวิทยาลัยได้หรือไม่ ?
มีสิทธิ์ มหาวิทยาลัยจะจัดที่พักให้เช่นเดียวกับนักศึกษาที่เข้าเรียนหลักสูตรปริญญาของมหาวิทยาลัย

8. ดิฉันเรียนจบด้านสถาปัตย์ ถ้าดิฉันต้องการเรียนต่อปริญญาโทด้าน Product Design จะได้หรือไม่ ?
ได้ นักศึกษาจะต้องส่งผลงาน ( Portfolio ) เพื่อแสดงความสามารถในการออกแบบที่เคยทำไว้แล้ว ให้พิจารณาด้วย สำหรับนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อด้าน Art and Design ในทุกหลักสูตร จะต้องส่ง Portfolio เพื่อประกอบการพิจารณาเช่นกัน

9. ดิฉันทราบว่าหลักสูตรปริญญาโทในสหราชอาณาจักรใช้ระยะเวลา 1 ปีเท่านั้น ดิฉันสงสัยว่านักศึกษาไทยสามารถเรียนจบได้ภายในระยะเวลาดังกล่าวหรือไม่ ?
ส่วนใหญ่นักศึกษาไทยสามารถเรียนจบได้ภายในระยะเวลา 1 ปีที่กำหนด อาจจะมีนักศึกษาบางคนต้องยืดระยะเวลาการทำ Dissertation ไป 3-4 เดือน ซึ่งมหาวิทยาลัยก็อนุมัติให้หากนักศึกษาสอบผ่านวิชาต่างๆในเทอม 1 และ เทอม 2 ครบแล้ว

10. ผู้ปกครองควรเตรียม statement ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ สถานทูตจึงจะออกวีซ่านักเรียนให้ ?
สำหรับหลักสูตรปริญญาตรี โท เอก ของมหาวิทยาลัยจะมีค่าเล่าเรียนตั้งแต่ 7,000 – 12,000 ปอนด์ ( หลักสูตรที่ต้องใช้ Lab ) และ MBA ตั้งแต่ 12,000 – 17,000 ปอนด์ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าครองชีพจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 – 7,500 ปอนด์ต่อปี ดังนั้นนักศึกษาหรือผู้ปกครองจะต้องมีค่าใช้จ่ายปีละประมาณ 14,000 – 18,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1.1 – 1.4 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่รวมค่าเรียนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ เดือนละ 100,000 บาท ( รวมค่าครองชีพแล้ว )

11. หากผลภาษาอังกฤษยังไม่ดีพอ จะสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในเทอมที่ 2 เดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ ได้หรือไม่ ?
มีบางมหาวิทยาลัยที่เปิดรับสมัครเข้าเรียนในเทอมที่ 2 และเปิดหลักสูตรในบางสาขาวิชา ส่วนใหญ่จะเป็นหลักสูตรด้าน business and management และ hospitality management

12. อยากทราบเกี่ยวกับแหล่งทุนการศึกษาที่รัฐบาลสหราชอาณาจักร มหาวิทยาลัย และองค์กรต่างๆที่ให้ความช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติในแต่ละปีการศึกษา ?

นักศึกษาสามารถสอบถามข้อมูลจาก British Council และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแหล่งเงินทุนและมหาวิทยาลัยที่ให้ทุน ทุนการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ทุนการศึกษาแบบเต็มจำนวน ซึ่งครอบคลุมค่าเล่าเรียน ค่ากินอยู่ และรวมค่าตั๋วเครื่องบินด้วย และทุนแบบไม่เต็มจำนวน คือให้ทุนค่าเล่าเรียนบางส่วน แหล่งทุนการศึกษาที่ให้เป็นประจำทุกปี ได้แก่

· ทุน Shell Centenary Scholarship เป็นทุนระดับปริญญาโท สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร และประเทศเนเธอร์แลนด์ มหาวิทยาลัยที่ให้การสนับสนุนและร่วมเป็น Partner ในการมอบทุนนี้ คือ University of Cambridge, Durham University, University of Edinburgh, Imperial College London, University of Leeds, University of Oxford, University College London เป็นทุนที่ครอบคลุมค่าเล่าเรียน ค่ากินอยู่ และตั๋วเครื่องบิน นักศึกษาที่สนใจ สามารถสอบถามได้ที่มหาวิทยาลัยที่กล่าวข้างต้น และดูรายละเอียดได้ที่ www.shellscholar.org หรือติดต่อขอข้อมูลที่บริษัทเชลล์ในประเทศไทย

· ทุน British Chevening เป็นทุนระดับปริญญาโทหรือหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น สำหรับการศึกษาหลากหลายหลักสูตร เป็นทุน 3 ประเภท คือ ประเภท A ให้ทุนค่าเล่าเรียนอย่างเดียว ประเภท B ให้ทุนแบบเต็มจำนวน คือทุนค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายรายเดือน และประเภท C คือให้ทุนเต็มหรือบางส่วนของค่ากินอยู่ นักศึกษาที่จะสมัครขอทุนจะต้องมีอายุระหว่าง 25-35 ปี มีผลการเรียนในระดับดี / ดีมาก และมีผลสอบวัดภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่า IELTS 6.5 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ British Council หรือที่ www.chevening.com

· ทุน ORS เป็นทุนสำหรับปริญญาเอกไม่จำกัดสาขาวิชา ทุนนี้จะครอบคลุมส่วนต่างๆของค่าเล่าเรียนของ Home Student และ International Student ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.universitiesuk.ac.uk

นอกจากนี้นักศึกษาอาจสอบถามและสมัครขอทุนได้จาก ก.พ. จากมหาวิทยาลัย และ / สถาบันแนะ แนวศึกษาต่อต่างประเทศที่เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร



13.อยากทราบว่า นักศึกษาจะสามารถไปทำงานเพื่อหารายได้พิเศษได้หรือไม่ ?
นักศึกษาสามารถทำงานหารายได้พิเศษโดยทำแบบ Part-time ได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 20 ชั่วโมง และเป็นนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรไม่ตำกว่า 6 เดือน จึงจะได้รับอนุญาตให้ทำงานนอกเวลาได้ อย่างไรก็ตาม นักศึกษายังจะต้องแสดงหลักฐานทางการเงินที่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเรียน และการพำนักอยู่ในประเทศสหราชอาณาจักร

14.อยากทราบว่า มหาวิทยาลัยให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาต่างชาติในด้านการรักษาพยาบาล หรือบริการด้านอื่นๆที่จำเป็นอย่างไรบ้าง ?
นักศึกษาต่างชาติจะได้รับสิทธิ์หรือบริการการรักษาทางการแพทย์ฟรี จาก National Health Service ( NHS ) แต่นักศึกษาจะได้รับสิทธิ์นี้ก็ต่อเมื่อลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปเท่านั้น บริการอื่น ๆ ที่มหาวิทยาลัยจัดให้กับนักศึกษาเป็นประจำได้แก่ มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาจะมีบริการจัดผู้แทนไปรับนักศึกษาใหม่ที่สนามบิน หรือสถานีรถไฟ และจัดรถรับไปส่งที่พัก รวมทั้งจัดให้มีการปฐมนิเทศ ( Orientation ) ก่อนการเปิดเทอมด้วย มหาวิทยาลัยยังมี International Office ที่เปิดทำงานตลอดปีเพื่อให้คำแนะนำแก่นักศึกษาทุกเรื่อง นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังมีชมรมนักศึกษา ( Student Union ) ซึ่งจะเป็นแหล่งให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาต่างชาติไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหางานพิเศษ การต่อวีซ่า การท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมด้านบันเทิง เช่น การจัดคอนเสิร์ต การจัดฉายภาพยนตร์ การจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัย เป็นต้น

15.หากนักศึกษาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแล้ว ต้องการหาประสบการณ์ทำงานในประเทศสหราชอาณาจักร จะได้รับอนุญาตให้อยู่ทำงานได้หรือไม่ ?
สำหรับนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาตรีโทหรือเอกจากมหาวิทยาลัยในสก็อตแลนด์ จะได้รับอนุญาตให้ทำงานต่อในสก็อตแลนด์ได้ 2 ปี ตามโครงการ Fresh Talent Scheme โดยมหาวิทยาลัยจะให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการขอ Work Permit ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ www.scotlandistheplace.com สำหรับในประเทศอังกฤษ Home Office ของประเทศอังกฤษได้อนุญาตให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก ที่เริ่มเข้าเรียนตั้งแต่ 1 พ.ค. 2549 เป็นต้นไป สามารถขออยู่ต่อเพื่อทำงานเป็นเวลานานถึง 12 เดือน อย่างไรก็ตามนักศึกษาที่เข้าเรียนก่อน 1 พ.ค. 2549 จะไม่ได้รับสิทธิ์นี้